อยากไปเที่ยวไหนหาได้ที่นี่

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

ร้อนนี้ไปเกาหลีใต้


สวัสดีปีใหม่ไทยย้อนหลังกับนักท่องเที่ยวทุกๆท่านนะค่ะ หลังสงกรานต์ไกด์จังแอบติดภารกิจเยอะไปหน่อยเลยไม่ค่อยได้อัพเดตอะไรเลย เอาล่ะวันนี้อากาศก็ยังร้อนเหมือนเดิมนะค่ะ วันนี้เช่นเดิมค่ะเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวเกาหลีบ้าง แอบกระซิบนิดนึงนะค่ะว่าเกาหลีก็มีซากุระเหมือนกัน จีนก็มี เกาหลีเหนือก็แม้แต่รัสเซียส่วนชายแดนติดจีนก็ยังมี แต่ที่ดังที่สุดก็อยู่ที่ ญี่ปุ่นค่ะ เอาล่ะหากใครอยากหนีร้อนและแพลนที่จะไปเที่ยวกับ Budget แบบประหยัด วันนี้แนะนำประเทศยอดฮิตสำหรับคนไทย คือ ประเทศเกาหลีใต้ 

ประเทศเกาหลีใต้ เป็นประเทศที่ติดคาบสมุทรเกาหลีและมีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและทางสังคมอย่างสูงและทัดเทียมกับนานาชาติได้ รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่างที่เราเคยได้ยิน อาทิเช่น Sumsung และ Hyundai เป็นต้น นอกจากนี้เกาหลีใต้ยังมีวัฒนธรรมที่โดดเด่นเฉพาะตัว รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งในกรุงโซลและนอกเมือง แต่คิดว่านักท่องเที่ยวหลายๆคนคงจะรู้จักกันดีอยู่แล้วมาดูไฮไลต์วันนี้ดีกว่าเกี่ยวกับค่ายใช้จ่ายในทริป มาด้วยกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. ตั๋วเครื่องบิน
    ท่านสามารถเลือกสายการบินได้เพราะเที่ยวบินจ่ากไทยไปเกาหลีมีให้เลือกมากกว่า 10 สาบการบินเรียกได้ว่าบินทุก 4-5 ชั่วโมงก็ว่าได้และสามารถเลือกราคาที่เราชอบได้หากใครเป็น Saver แบบไกด์ แน่นอนว่าเป้าหมายคือ Low Cost airlines แน่ๆ สนนราคาประมาณ 11,000 บาท ต่อเที่ยวไปกลับ และราคาอาจจะถูกหรือแพงกว่านี้ได้ ยังไงตรวจสอบวันและเวลาการเดินทางกับสายการบินและขอแนะนำให้เดินทางวันธรรมดานะค่ะจะได้บินในราคาประหยัดจะได้เหลือเงินไว้ช้อปปิ้ง

2. อาหาร ของกินเล่น เครื่องดื่ม
    แน่ๆนอนค่ะว่าการกินของอร่อยในแหล่งท่องเที่ยวมันเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ไปถึงเกาหลีทั้งที่ต้องไปกินของดีของเค้าให้ได้ ไม่งั้นถือว่าไปไม่ถึง จะมานั่งกินข้าวกล่อง 7-11 หรือ Max Value ก็กระไรอยู่ 555 มันเลยเกิดค่าใช้จ่ายแบบนี้อย่างชัดเจนขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้เที่ยวให้สนุกและอิ่มหนำสำราญ ประมาณ 3,000 บาทไทย ราคานี้สำหรับไกด์จังนะค่ะ ไกด์จังเป็นคนตัวเล็กหนักแค่ 43 กก. สูง 155 ซม. มินิไปหน่อยทานได้ไม่เยอะค่ะ เอาเป็นว่าเงินส่วนนี้จัดสรรปันส่วนกันให้ถูกต้องละกันให้เหมาะแต่ละคนนะจ้ะ

3. Shopping และค่าใช้จ่ายการเดินทางและเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว
    กรณีนี้คือเราเที่ยวกันเองไม่ง้อทัวร์แนะนอนค่ะว่ารายจ่ายเกี่ยวกับค่าเดินทางขึ้นรถไฟและค่าเข้าชมถสานที่ท่องเที่ยวบางแห่งย่อมเกิดขึ้นและไกด์จังของ list ให้เฉพาะเส้นทางเที่ยว กรุงโซล อินชอนและและเขตปลอดทหารเกาหลี่ใต้-เหนือ หรือ DMZ (เดี๋ยวโพสต์หน้าไกด์จังจะรีวิวเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ในเกาหลีใต้ให้ เชื่อว่าๆหลายคนคงเบื่อเกาะมานิเต็มทีแล้ว) ทั้งนี้รวมถึงค่าช้อปปิ้งสำหรับสาวๆหรือไม่สาวก็ตามได้หอบหิ้วของฝากให้เพื่อนๆด้วยไกด์จังเคยใช้มาแล้วแค่ 3 พันนิดๆเองได้ของฝากมาเพียบแถมยังได้เที่ยวตามใจเราอีกด้วย

4. โรงแรม ที่พัก
    หากใครพักในกรุงโซลแหล่งที่พักที่ฮอตที่สุดก็คงเป็นแถวเมียงดงส่วนเรื่องราคาก็เลือกเอานะค่ะว่าใครชอบแบบไหน สำหรับ 5 วัน 4 คืนของไกด์จังแล้วรวมๆก็ประมาณ 3 พันนิดๆค่ะโรงแรม 3 ดาว เอาแค่พออยู่ สะอาดและมี Breakfast ให้ตอนเช้า หรือใครที่มีเพื่อนหรือมีญาติทำงานหรือเรียนที่โน้นก็โชคดีไปอย่างน้อยก็ประหยัดเรื่องค่าที่พักไปอีกเท่าหนึ่งเอาตังค์ไปช้อปปิ้งหรือทำอย่างอื่นเพิ่มก็ได้

ทั้งหมดนี้ รวมๆแล้วค่าใช้จ่ายไปเกาหลี 4 คืน 5 วัน อยู่ประมาณ 20,000 บาท โดย Budget นี้อ้างอิงจากค่าใช้จ่ายของไกด์จังเองนะค่ะ แต่ละคนใช้มากใช้น้อยไม่เท่ากันยังไงก็แพลนเรื่องค่าใช้จ่ายกันด้วยนะค่ะและอย่าลืมทำประกันการเดินทางไว้ด้วยทุกครั้งก่อนเดินทางนะค่ะเพื่อความปลอดภัยทุกๆด้าน

ขอให้เที่ยวให้สนุก Have a nice trip ka


วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2559

เที่ยวสนุกที่อุเอะโนะ



สวัสดีค่ะวันนี้วันอังคารยังไงไกด์จังขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนต่อสู้กับการทำงานะค่ะ วันนี้เราก็ยังอยู่ในเทศกาลฮามานิในญี่ปุ่นวันนี้เราจะพาท่านไปชมอีกสถานที่ที่ชมดอกซากุระในโตเกียวและเป็นที่คนไทยชอบไปซื้อของฝากกันนั่นก็ก็คือย่านอุเอโนะนั่นเอง


สวนอุเอโนะ (Ueno Park) 
เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว ภายในมีทั้งวัด สวนสัตว์ ศาลเจ้าทะเลสาบ และระรานตาไปด้วยต้นไม้มีบรรยากาศร่มรื่นจึงเป็นสถานที่ที่ปอดของชาวโตเกียวก็ว่าได้และในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกๆปีสวนอุเอโนะจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวในการมาชมซากุระซึ่งมักจะบานช่วงประมาณช่วงเดือนนี้ราวๆเมษายน โดยจะมีต้นซากุระเรียงรายอยู่ทั้งสองข้างภายในสวนมากกว่า 1,000 ต้น ทำให้มีผู้คนจำนวนมากมาเยี่ยมชมในเทศกาลชมดอกซากุระ หรือที่เรียกกันว่า เทศกาลฮานามิ



ย่านยานาเกะ (Yanaka) 
เป็นเขตหนึ่งในโตเกียวที่เป็นย่านเก่าแก่ตามสไตล์ชิตามาจิมีสไตล์แบบชนบท ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสวนอุเอโนะ(Ueno Park) ที่สถานที่ท่องเที่ยวในย่านนี้ได้ Yanaka Ginza แหล่งรวมอาหารรถชาติดีของญี่ปุ่นและสินค้าจำพวกของชำ เสื้อผ้า และของเล่นในราคาถูกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีร้านขายขนมที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งใน เรียกว่า ขนมมันจู ราคาประมาณ 12 เยน หรือราวๆ ซึ่งเป็นขนมปังหลากหลายไส้ เช่น ไส้น้ำตาลดำ และไส้ชาเขียว   ในนี้ย่านนี้ก็ยังเป็นชุมชนที่ชาวบ้านอาศัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นโดยและรวมถึงเห็นวัฒนธรรมการดำรงชีวิตของชาวญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอีกด้วย
อีกที่หนึ่งคือ สุสานยานากะ เป็นสุสานของท่านโทกุกะวา โยชิโนบุ โชกุนหรือท่านแม่ทัพคนสุดท้ายของสมัยเอโดะ (Edo)และยังมีถนนซากุระ อยู่ใจกลางของสุสานซึ่งเรียงรายไปด้วยต้นซากุระ ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากในเทศกาลฮานามิที่จะพากันมาเดินชิวๆแถวนี้อีกด้วย




สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo)
เป็นสวนสัตว์แห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 หรือราวๆประมาณ 133 ปีมาแล้ว ซึ่งสวนสัตว์แห่งนี้ยังมีสัตว์ป่า หลายๆชนิดไว้ให้ศึกษาธรรมชาติ และการดำรงชีวิตของมัน และยังมีสัตว์หายากที่สำคัญสวนสัตว์แห่งนี้ยังเดินทางไปมาสะดวกเนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียวนั้นเอง นอกจากจะเป็นสวนสัตว์และบริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นมาสูดบรรยากาศอีกด้วย



 วัดเทนเบนโตะ (bentendo temple)
เป็นวัดอาคารทรงแปดเหลี่ยมตั้งอยู่ที่เกาะกลางบ่อน้ำชิโนบาซุ ตามตำนานได้กล่าวว่าได้มีสร้างขึ้นเพื่อรำลึกให้กับเทพเจ้าเบนเทน เทพแห่งการพยากรณ์ ความรู้ความสามารถ สุขภาพและดนตรี หากใครอยากจะขอพรด้านสุขภาพขอให้สุขภาพดีแข็งแรงก็แวะมาที่นี่ได้นะค่ะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือช่วงดอกซากุระบานจะเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเที่ยวชมวัดแห่งนี้เพื่อชมดอกซากุระบานย่านอุเอโนะอละพื้นที่และวัดดังกล่าวเปิดบริการชมฟรีทุกวันค่ะ




ศาลเจ้าอุเอโนะ โชโทกุ (Ueno Toshogu Shrine)
ศาลเจ้าอุเอโนะ โทโชกุ สร้างขึ้นในปี ค.. 1616 เป็นศาลเจ้าที่สร้างเพื่ออุทิศให้กับท่านโทคุกาว่า อิเอยาสุ ศาลเจ้าแห่งนี้มีสวนโบตั๋นและเปิดให้เข้าชมได้ในเฉพาะเดือนมกราคมกลางเดือนกุมภาพันธ์ และกลางเดือนเมษายนต้นพฤษภาคม 2 ปีต่อครั้งเท่านั้นหากใครอยากมาชมสวนโบตั๋นที่นี่ก็ต้องดูมาแค่ช่วงเดือนนี้นะค่ะเพราะหลังจากกลางพฤษภาคมแล้วก็จะปิดต้องรออีกต้นปีหน้า


สวนริงุคิเอน (Rikugien) 
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวย่านอุเอโนะ สวนญี่ปุ่นสมัยเก่าแก่ได้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1695 อายุสวนนี้ก็ราวประมาณ 321 ปีมาแล้ว ดำเนินการโดยไดเมียวยานางิซาวะ โยชิยาสุ หนึ่งในไดเมียวที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในสมัยเอโดะ ซึ่งภายในสวนมีหลายจุดให้เยี่ยมชมทั้งหมด 88 จุดและได้ตั้งชื่อตามสถานที่สำคัญทั้งในญี่ปุ่นและจีน บางจุดถูกตั้งชื่อตามเหตุการณ์สำคัญๆทางประวัติศาสตร์ของจีน รวมถึงมีการอ้างอิงกลอนวากะอีกด้วยทางเดินส่วนใหญ่ในสมัยเอโดะภายในสวนได้รับการออกแบบอย่างเรียบง่ายในสไตล์ญี่ปุ่นแบบร่วมสมัย ทั้งนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมซากุระในเทศกาลฮานามิของนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเองอีกด้วย




วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2559

เตรียมตัวไปญี่ปุ่นกัน ใครๆก็เที่ยวได้

สวัสดีค่ะวันนี้วันศุกร์แห่งชาติวันที่หลายๆคนชอบรวมถึงไกด์จังด้วย เอาล่ะสัปดาห์นี้เรายังอยู่ในเรื่องของเที่ยวที่ญี่ปุ่นนะค่ะ ไกด์จังเชื่อว่าหลายคนมีประเทศในดวงใจที่อยากไปเที่ยว เชื่อว่าหนึ่งในนั่นมีญี่ปุ่นแน่นอน ด้วยวัฒนธรรมและประเพณีที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจจึงทำให้ญี่ปุ่นเป็นปลายทางของนักท่องเที่ยวเกือบทั่วทุกมุมโลก หากพูดถึงเรื่องไปเที่ยวเราจะนึกถึง budget และค่าใช้จ่ายเป็นอันดับแรก แน่นอนว่าญี่ปุ่นค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวก็แพงไม่ใช้น้อยเลยทีเดียวเรามาดูค่ะว่า ในการเที่ยวญี่ปุ่นเราจะใช้จ่ายประมาณเท่าไหรรับรองค่ะว่าใครๆก็เที่ยวได้
 

ค่าใช้จ่ายไปญี่ปุ่นโดยกลางๆสำหรับคนเดินทางเองและเลือกเที่ยวงานสายการบินกลางๆหรือ Low Cost แต่ budget ดังกล่าวสามารถขึ้นๆลงๆตามฤดูกาลท่องเที่ยวแต่ถ้าเราเลือกวันและเวลาที่่คนไม่เยอะๆรับรองค่ะว่า budgetไม่เกิน 30,000 บาทแน่นอน มาดูค่ะว่าเราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้แค่ไหนบ้าง

1. ตั๋วเครื่องบิน (Ticket Fare): สำหรับตัซเครื่องบิน กรุงเทพ - ญี่ปุ่น หากเป็นสายการบินประจำชาติ ราคาจะอยู่ประมาณ 18,000 - 30,000 ขึ้นอยู่กับว่าจองตรงกับ Low หรือ High Season หรือป่าว ถ้าได้ช่วงที่โปรโมชั่นคุณอาจจะได้บินในราคา 12,000-15,000 ก็ได้ แต่ถ้าสำหรับคนที่อยากจะ save กว่านี้ก็ต้อง Low Cost airlines หรือสายการบินต้นทุนต่ำ จำพวก แอร์ เอเชีย นกสกู๊ดหรือเจ็ท สตาร์  และอื่นๆอีก ราคาก็จะอยู่ประมาณ 10,000 - 15,000 บาท แต่ถ้ามีโปรโมชั่นคุณอาจจะได้ตั๋วเครื่องบินในราคาแค่ 6,000 -7,000 บาทก็ได้ 

2. อาหารและเครื่องดืม กินอยู่: อาหารและเครื่องดื่มในญี่ปุ่นก็มีทั้งราคาธรรมดาจนถึงแพง อย่างราเมนธรรมดาๆหรือข้าวหน้าต่างๆ ที่ประมาณ 500-800 เยน ก็ประมาณ 150-300 บาทต่อมื้อหากโรงแรมที่เราพักมี breakfast ก็จะประหยัดไประดับหนึ่ง

3. ค่าใช้จ่าอย่างอื่นๆ: อาทิเช่น ค่ารถไฟ ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ค่าประกันการเดินทาง ค่าซื้อของฝาก ค่าหิ้วของฝากและเงินฉุกเฉินต่างๆนานาอันนี้ก็แล้วแต่คนจะเอาไปสำรองกันเท่าไหร่นะค่ะเพราะปต่ละคนช้อปปิ้งไม่เหมือนกัน ใช้ชีวิตไม่เหมือนกันอย่างใน plan มีแค่ 3,500 บาท หรือ 10,000 เยนอันนี้อ้างอิงจากไกด์จังและเพื่อนๆของไกด์จังใช้ในส่วนตรงนี้ บางคนก็ 12,000 เยน บางคนก็ 8,000 เยน ยังไงก็เอาที่แต่ละคนสะดวกในการใช้จ่ายแต่ละคนไปนะค่ะส่วนนี้ 

4. ค่าที่พัก โรงแรม: สำหรับค่าที่พักไกด์จังคิดวันล่ะ 1,500/บาทต่อคืนรวมอาหารเช้า (ห้องละ 3,000 บาทต่อ 2 คน/คืน) ก็จะอยู่ในระดับ 3 - 4 ดาวค่ะ แต่ลองดูดีๆนะค่ะเพราะ บางโรงแรมระดับ 5 ดาวเค้าก็จะจัดโปรชั่นสำหรับหน้า Low Season คุณอาจจะได้นอนโรงแรมหรูในราคาสบายกระเป๋าค่ะ

ทั้งหมดนี้ที่ไกด์จังแจกแจงค่าใช้จ่ายโดนคร่าวๆให้ดูคืออ้างอิงมาจากการใช้จ่ายของไกด์จังเองนะค่ะอันนี้ไกด์จังทำให้ดูเป็นตัวอย่างหรือหากใครอยากจะลองเอาไปเป็นแบบแลนค่าใช้จ่ายของตัวก็ไม่ว่านะค่ะยินดี รับรองว่าค่าใช้จ่ายนี้จำทำให้ทุกๆท่านได้เที่ยวได้กินอิ่มหนำได้ช้อปปิ้งจุใจอย่างเต็มที่แน่นอน ครั้งต่อไปไกด์จังจะพาไปดูแหล่งช้อปปิ้งสุดฮิตของคนญี่ปุ่นในโตเกียวรอติดตามกันสัปดาห์หน้านะค่ะ