อยากไปเที่ยวไหนหาได้ที่นี่

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

ร้อนนี้ไปเกาหลีใต้


สวัสดีปีใหม่ไทยย้อนหลังกับนักท่องเที่ยวทุกๆท่านนะค่ะ หลังสงกรานต์ไกด์จังแอบติดภารกิจเยอะไปหน่อยเลยไม่ค่อยได้อัพเดตอะไรเลย เอาล่ะวันนี้อากาศก็ยังร้อนเหมือนเดิมนะค่ะ วันนี้เช่นเดิมค่ะเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวเกาหลีบ้าง แอบกระซิบนิดนึงนะค่ะว่าเกาหลีก็มีซากุระเหมือนกัน จีนก็มี เกาหลีเหนือก็แม้แต่รัสเซียส่วนชายแดนติดจีนก็ยังมี แต่ที่ดังที่สุดก็อยู่ที่ ญี่ปุ่นค่ะ เอาล่ะหากใครอยากหนีร้อนและแพลนที่จะไปเที่ยวกับ Budget แบบประหยัด วันนี้แนะนำประเทศยอดฮิตสำหรับคนไทย คือ ประเทศเกาหลีใต้ 

ประเทศเกาหลีใต้ เป็นประเทศที่ติดคาบสมุทรเกาหลีและมีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและทางสังคมอย่างสูงและทัดเทียมกับนานาชาติได้ รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่างที่เราเคยได้ยิน อาทิเช่น Sumsung และ Hyundai เป็นต้น นอกจากนี้เกาหลีใต้ยังมีวัฒนธรรมที่โดดเด่นเฉพาะตัว รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งในกรุงโซลและนอกเมือง แต่คิดว่านักท่องเที่ยวหลายๆคนคงจะรู้จักกันดีอยู่แล้วมาดูไฮไลต์วันนี้ดีกว่าเกี่ยวกับค่ายใช้จ่ายในทริป มาด้วยกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. ตั๋วเครื่องบิน
    ท่านสามารถเลือกสายการบินได้เพราะเที่ยวบินจ่ากไทยไปเกาหลีมีให้เลือกมากกว่า 10 สาบการบินเรียกได้ว่าบินทุก 4-5 ชั่วโมงก็ว่าได้และสามารถเลือกราคาที่เราชอบได้หากใครเป็น Saver แบบไกด์ แน่นอนว่าเป้าหมายคือ Low Cost airlines แน่ๆ สนนราคาประมาณ 11,000 บาท ต่อเที่ยวไปกลับ และราคาอาจจะถูกหรือแพงกว่านี้ได้ ยังไงตรวจสอบวันและเวลาการเดินทางกับสายการบินและขอแนะนำให้เดินทางวันธรรมดานะค่ะจะได้บินในราคาประหยัดจะได้เหลือเงินไว้ช้อปปิ้ง

2. อาหาร ของกินเล่น เครื่องดื่ม
    แน่ๆนอนค่ะว่าการกินของอร่อยในแหล่งท่องเที่ยวมันเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ไปถึงเกาหลีทั้งที่ต้องไปกินของดีของเค้าให้ได้ ไม่งั้นถือว่าไปไม่ถึง จะมานั่งกินข้าวกล่อง 7-11 หรือ Max Value ก็กระไรอยู่ 555 มันเลยเกิดค่าใช้จ่ายแบบนี้อย่างชัดเจนขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้เที่ยวให้สนุกและอิ่มหนำสำราญ ประมาณ 3,000 บาทไทย ราคานี้สำหรับไกด์จังนะค่ะ ไกด์จังเป็นคนตัวเล็กหนักแค่ 43 กก. สูง 155 ซม. มินิไปหน่อยทานได้ไม่เยอะค่ะ เอาเป็นว่าเงินส่วนนี้จัดสรรปันส่วนกันให้ถูกต้องละกันให้เหมาะแต่ละคนนะจ้ะ

3. Shopping และค่าใช้จ่ายการเดินทางและเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว
    กรณีนี้คือเราเที่ยวกันเองไม่ง้อทัวร์แนะนอนค่ะว่ารายจ่ายเกี่ยวกับค่าเดินทางขึ้นรถไฟและค่าเข้าชมถสานที่ท่องเที่ยวบางแห่งย่อมเกิดขึ้นและไกด์จังของ list ให้เฉพาะเส้นทางเที่ยว กรุงโซล อินชอนและและเขตปลอดทหารเกาหลี่ใต้-เหนือ หรือ DMZ (เดี๋ยวโพสต์หน้าไกด์จังจะรีวิวเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ในเกาหลีใต้ให้ เชื่อว่าๆหลายคนคงเบื่อเกาะมานิเต็มทีแล้ว) ทั้งนี้รวมถึงค่าช้อปปิ้งสำหรับสาวๆหรือไม่สาวก็ตามได้หอบหิ้วของฝากให้เพื่อนๆด้วยไกด์จังเคยใช้มาแล้วแค่ 3 พันนิดๆเองได้ของฝากมาเพียบแถมยังได้เที่ยวตามใจเราอีกด้วย

4. โรงแรม ที่พัก
    หากใครพักในกรุงโซลแหล่งที่พักที่ฮอตที่สุดก็คงเป็นแถวเมียงดงส่วนเรื่องราคาก็เลือกเอานะค่ะว่าใครชอบแบบไหน สำหรับ 5 วัน 4 คืนของไกด์จังแล้วรวมๆก็ประมาณ 3 พันนิดๆค่ะโรงแรม 3 ดาว เอาแค่พออยู่ สะอาดและมี Breakfast ให้ตอนเช้า หรือใครที่มีเพื่อนหรือมีญาติทำงานหรือเรียนที่โน้นก็โชคดีไปอย่างน้อยก็ประหยัดเรื่องค่าที่พักไปอีกเท่าหนึ่งเอาตังค์ไปช้อปปิ้งหรือทำอย่างอื่นเพิ่มก็ได้

ทั้งหมดนี้ รวมๆแล้วค่าใช้จ่ายไปเกาหลี 4 คืน 5 วัน อยู่ประมาณ 20,000 บาท โดย Budget นี้อ้างอิงจากค่าใช้จ่ายของไกด์จังเองนะค่ะ แต่ละคนใช้มากใช้น้อยไม่เท่ากันยังไงก็แพลนเรื่องค่าใช้จ่ายกันด้วยนะค่ะและอย่าลืมทำประกันการเดินทางไว้ด้วยทุกครั้งก่อนเดินทางนะค่ะเพื่อความปลอดภัยทุกๆด้าน

ขอให้เที่ยวให้สนุก Have a nice trip ka


วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2559

เที่ยวสนุกที่อุเอะโนะ



สวัสดีค่ะวันนี้วันอังคารยังไงไกด์จังขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนต่อสู้กับการทำงานะค่ะ วันนี้เราก็ยังอยู่ในเทศกาลฮามานิในญี่ปุ่นวันนี้เราจะพาท่านไปชมอีกสถานที่ที่ชมดอกซากุระในโตเกียวและเป็นที่คนไทยชอบไปซื้อของฝากกันนั่นก็ก็คือย่านอุเอโนะนั่นเอง


สวนอุเอโนะ (Ueno Park) 
เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว ภายในมีทั้งวัด สวนสัตว์ ศาลเจ้าทะเลสาบ และระรานตาไปด้วยต้นไม้มีบรรยากาศร่มรื่นจึงเป็นสถานที่ที่ปอดของชาวโตเกียวก็ว่าได้และในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกๆปีสวนอุเอโนะจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวในการมาชมซากุระซึ่งมักจะบานช่วงประมาณช่วงเดือนนี้ราวๆเมษายน โดยจะมีต้นซากุระเรียงรายอยู่ทั้งสองข้างภายในสวนมากกว่า 1,000 ต้น ทำให้มีผู้คนจำนวนมากมาเยี่ยมชมในเทศกาลชมดอกซากุระ หรือที่เรียกกันว่า เทศกาลฮานามิ



ย่านยานาเกะ (Yanaka) 
เป็นเขตหนึ่งในโตเกียวที่เป็นย่านเก่าแก่ตามสไตล์ชิตามาจิมีสไตล์แบบชนบท ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสวนอุเอโนะ(Ueno Park) ที่สถานที่ท่องเที่ยวในย่านนี้ได้ Yanaka Ginza แหล่งรวมอาหารรถชาติดีของญี่ปุ่นและสินค้าจำพวกของชำ เสื้อผ้า และของเล่นในราคาถูกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีร้านขายขนมที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งใน เรียกว่า ขนมมันจู ราคาประมาณ 12 เยน หรือราวๆ ซึ่งเป็นขนมปังหลากหลายไส้ เช่น ไส้น้ำตาลดำ และไส้ชาเขียว   ในนี้ย่านนี้ก็ยังเป็นชุมชนที่ชาวบ้านอาศัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นโดยและรวมถึงเห็นวัฒนธรรมการดำรงชีวิตของชาวญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอีกด้วย
อีกที่หนึ่งคือ สุสานยานากะ เป็นสุสานของท่านโทกุกะวา โยชิโนบุ โชกุนหรือท่านแม่ทัพคนสุดท้ายของสมัยเอโดะ (Edo)และยังมีถนนซากุระ อยู่ใจกลางของสุสานซึ่งเรียงรายไปด้วยต้นซากุระ ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากในเทศกาลฮานามิที่จะพากันมาเดินชิวๆแถวนี้อีกด้วย




สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo)
เป็นสวนสัตว์แห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 หรือราวๆประมาณ 133 ปีมาแล้ว ซึ่งสวนสัตว์แห่งนี้ยังมีสัตว์ป่า หลายๆชนิดไว้ให้ศึกษาธรรมชาติ และการดำรงชีวิตของมัน และยังมีสัตว์หายากที่สำคัญสวนสัตว์แห่งนี้ยังเดินทางไปมาสะดวกเนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียวนั้นเอง นอกจากจะเป็นสวนสัตว์และบริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นมาสูดบรรยากาศอีกด้วย



 วัดเทนเบนโตะ (bentendo temple)
เป็นวัดอาคารทรงแปดเหลี่ยมตั้งอยู่ที่เกาะกลางบ่อน้ำชิโนบาซุ ตามตำนานได้กล่าวว่าได้มีสร้างขึ้นเพื่อรำลึกให้กับเทพเจ้าเบนเทน เทพแห่งการพยากรณ์ ความรู้ความสามารถ สุขภาพและดนตรี หากใครอยากจะขอพรด้านสุขภาพขอให้สุขภาพดีแข็งแรงก็แวะมาที่นี่ได้นะค่ะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือช่วงดอกซากุระบานจะเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเที่ยวชมวัดแห่งนี้เพื่อชมดอกซากุระบานย่านอุเอโนะอละพื้นที่และวัดดังกล่าวเปิดบริการชมฟรีทุกวันค่ะ




ศาลเจ้าอุเอโนะ โชโทกุ (Ueno Toshogu Shrine)
ศาลเจ้าอุเอโนะ โทโชกุ สร้างขึ้นในปี ค.. 1616 เป็นศาลเจ้าที่สร้างเพื่ออุทิศให้กับท่านโทคุกาว่า อิเอยาสุ ศาลเจ้าแห่งนี้มีสวนโบตั๋นและเปิดให้เข้าชมได้ในเฉพาะเดือนมกราคมกลางเดือนกุมภาพันธ์ และกลางเดือนเมษายนต้นพฤษภาคม 2 ปีต่อครั้งเท่านั้นหากใครอยากมาชมสวนโบตั๋นที่นี่ก็ต้องดูมาแค่ช่วงเดือนนี้นะค่ะเพราะหลังจากกลางพฤษภาคมแล้วก็จะปิดต้องรออีกต้นปีหน้า


สวนริงุคิเอน (Rikugien) 
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวย่านอุเอโนะ สวนญี่ปุ่นสมัยเก่าแก่ได้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1695 อายุสวนนี้ก็ราวประมาณ 321 ปีมาแล้ว ดำเนินการโดยไดเมียวยานางิซาวะ โยชิยาสุ หนึ่งในไดเมียวที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในสมัยเอโดะ ซึ่งภายในสวนมีหลายจุดให้เยี่ยมชมทั้งหมด 88 จุดและได้ตั้งชื่อตามสถานที่สำคัญทั้งในญี่ปุ่นและจีน บางจุดถูกตั้งชื่อตามเหตุการณ์สำคัญๆทางประวัติศาสตร์ของจีน รวมถึงมีการอ้างอิงกลอนวากะอีกด้วยทางเดินส่วนใหญ่ในสมัยเอโดะภายในสวนได้รับการออกแบบอย่างเรียบง่ายในสไตล์ญี่ปุ่นแบบร่วมสมัย ทั้งนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมซากุระในเทศกาลฮานามิของนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเองอีกด้วย




วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2559

เตรียมตัวไปญี่ปุ่นกัน ใครๆก็เที่ยวได้

สวัสดีค่ะวันนี้วันศุกร์แห่งชาติวันที่หลายๆคนชอบรวมถึงไกด์จังด้วย เอาล่ะสัปดาห์นี้เรายังอยู่ในเรื่องของเที่ยวที่ญี่ปุ่นนะค่ะ ไกด์จังเชื่อว่าหลายคนมีประเทศในดวงใจที่อยากไปเที่ยว เชื่อว่าหนึ่งในนั่นมีญี่ปุ่นแน่นอน ด้วยวัฒนธรรมและประเพณีที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจจึงทำให้ญี่ปุ่นเป็นปลายทางของนักท่องเที่ยวเกือบทั่วทุกมุมโลก หากพูดถึงเรื่องไปเที่ยวเราจะนึกถึง budget และค่าใช้จ่ายเป็นอันดับแรก แน่นอนว่าญี่ปุ่นค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวก็แพงไม่ใช้น้อยเลยทีเดียวเรามาดูค่ะว่า ในการเที่ยวญี่ปุ่นเราจะใช้จ่ายประมาณเท่าไหรรับรองค่ะว่าใครๆก็เที่ยวได้
 

ค่าใช้จ่ายไปญี่ปุ่นโดยกลางๆสำหรับคนเดินทางเองและเลือกเที่ยวงานสายการบินกลางๆหรือ Low Cost แต่ budget ดังกล่าวสามารถขึ้นๆลงๆตามฤดูกาลท่องเที่ยวแต่ถ้าเราเลือกวันและเวลาที่่คนไม่เยอะๆรับรองค่ะว่า budgetไม่เกิน 30,000 บาทแน่นอน มาดูค่ะว่าเราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้แค่ไหนบ้าง

1. ตั๋วเครื่องบิน (Ticket Fare): สำหรับตัซเครื่องบิน กรุงเทพ - ญี่ปุ่น หากเป็นสายการบินประจำชาติ ราคาจะอยู่ประมาณ 18,000 - 30,000 ขึ้นอยู่กับว่าจองตรงกับ Low หรือ High Season หรือป่าว ถ้าได้ช่วงที่โปรโมชั่นคุณอาจจะได้บินในราคา 12,000-15,000 ก็ได้ แต่ถ้าสำหรับคนที่อยากจะ save กว่านี้ก็ต้อง Low Cost airlines หรือสายการบินต้นทุนต่ำ จำพวก แอร์ เอเชีย นกสกู๊ดหรือเจ็ท สตาร์  และอื่นๆอีก ราคาก็จะอยู่ประมาณ 10,000 - 15,000 บาท แต่ถ้ามีโปรโมชั่นคุณอาจจะได้ตั๋วเครื่องบินในราคาแค่ 6,000 -7,000 บาทก็ได้ 

2. อาหารและเครื่องดืม กินอยู่: อาหารและเครื่องดื่มในญี่ปุ่นก็มีทั้งราคาธรรมดาจนถึงแพง อย่างราเมนธรรมดาๆหรือข้าวหน้าต่างๆ ที่ประมาณ 500-800 เยน ก็ประมาณ 150-300 บาทต่อมื้อหากโรงแรมที่เราพักมี breakfast ก็จะประหยัดไประดับหนึ่ง

3. ค่าใช้จ่าอย่างอื่นๆ: อาทิเช่น ค่ารถไฟ ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ค่าประกันการเดินทาง ค่าซื้อของฝาก ค่าหิ้วของฝากและเงินฉุกเฉินต่างๆนานาอันนี้ก็แล้วแต่คนจะเอาไปสำรองกันเท่าไหร่นะค่ะเพราะปต่ละคนช้อปปิ้งไม่เหมือนกัน ใช้ชีวิตไม่เหมือนกันอย่างใน plan มีแค่ 3,500 บาท หรือ 10,000 เยนอันนี้อ้างอิงจากไกด์จังและเพื่อนๆของไกด์จังใช้ในส่วนตรงนี้ บางคนก็ 12,000 เยน บางคนก็ 8,000 เยน ยังไงก็เอาที่แต่ละคนสะดวกในการใช้จ่ายแต่ละคนไปนะค่ะส่วนนี้ 

4. ค่าที่พัก โรงแรม: สำหรับค่าที่พักไกด์จังคิดวันล่ะ 1,500/บาทต่อคืนรวมอาหารเช้า (ห้องละ 3,000 บาทต่อ 2 คน/คืน) ก็จะอยู่ในระดับ 3 - 4 ดาวค่ะ แต่ลองดูดีๆนะค่ะเพราะ บางโรงแรมระดับ 5 ดาวเค้าก็จะจัดโปรชั่นสำหรับหน้า Low Season คุณอาจจะได้นอนโรงแรมหรูในราคาสบายกระเป๋าค่ะ

ทั้งหมดนี้ที่ไกด์จังแจกแจงค่าใช้จ่ายโดนคร่าวๆให้ดูคืออ้างอิงมาจากการใช้จ่ายของไกด์จังเองนะค่ะอันนี้ไกด์จังทำให้ดูเป็นตัวอย่างหรือหากใครอยากจะลองเอาไปเป็นแบบแลนค่าใช้จ่ายของตัวก็ไม่ว่านะค่ะยินดี รับรองว่าค่าใช้จ่ายนี้จำทำให้ทุกๆท่านได้เที่ยวได้กินอิ่มหนำได้ช้อปปิ้งจุใจอย่างเต็มที่แน่นอน ครั้งต่อไปไกด์จังจะพาไปดูแหล่งช้อปปิ้งสุดฮิตของคนญี่ปุ่นในโตเกียวรอติดตามกันสัปดาห์หน้านะค่ะ


วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

เฮฮากับเทศกาลฮานามิที่ญี่ปุ่น (เทศกาลซากุระ) ภาค 3


การเที่ยวเทศกาลซากุระบานในญี่ปุ่น หนึ่งในกิจกรรมที่หลายคนชื่นของคือการปิกนิกนั่งดื่มฉลองกันใต้ต้นซากุระ เราในฐานะที่เป็นคนไทยก็อยากทำแบบนี้เหมือนกันวันนี้ไกด์จังขอแนะนำที่สำหรับนั่งปิกนิคใต้ต้นซากุระบานนั่งดื่มชิวๆพร้อมกับการนั่งดูดอกซากุระบาน รับรองเลยค่ะว่าเที่ยวทริปหาพิเศษที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว สถานที่แห่งนี้ติดกับย่านช้อปปิ้งชินจูกุที่คนไทยอย่างเราๆคุ้นชินกันเป็นอย่างดูคือ วนอุทยานแห่งชาติชินจูกุแห่งชมซากุระที่ยอดนิยมของชาวโตเกียวและนักท่องเที่ยว


จะเยี่ยมไม่น้อยเลยนะค่ะถ้าหลังจากเดินช้อปปิ้งที่ชินจูกุเสร็จแล้วเดินมาพักผ่อนซื้ออะไรมากินมาปิกนิคกับครอบครัวหรือเพื่อนๆนั่งชมซากุระบานบรรยากาศไม่ร้อนมาก ทริปนี้คงจะพิเศษและสุดยอดหน้าดูเลยที่เดียวนะค่ะ
พรุ่งนี้ไกด์จังจะพาไปดูซากุระบานที่ไหนอย่าลืมติดตามกันนะค่ะ

วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559

เฮฮากับเทศกาลฮานามิที่ญี่ปุ่น (เทศกาลซากุระ) ภาค 2

ตารางสำหรับซากุระบานปีนี้ เริ่มขึ้นแล้วนะค่ะถ้าใครมีแพลนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นเร็วๆ สามารถตรวจสอบเช็คข้อมูลและโซนของซากุระบานคร่าวๆได้ที่นี่นะค่ะ



หรือสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่องค์การส่งเสรืมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น JNTO

http://www.jnto.or.th/

ไกด์จังขอให้ทริปนี้เที่ยวให้สนุกนะค่ะ

วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2559

เฮฮากับเทศกาลฮานามิที่ญี่ปุ่น (เทศกาลซากุระบาน)



สวัสดีตอนบ่ายวันจัทนร์นะค่ะปลายสิ้นเดือนแล้วหลายๆคนคงได้รับเงินเดือนกันอย่างถ้วนหน้าแล้วและคงสนุกสนานกันอย่างเต็มที่เลยที่เดียวช่วงนี้ใครยังไม่มีแพลนใช้เงินและอยากท่องเที่ยววันนี้ไกด์จังมีเทศกาลท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นมากฝากกันนะค่ะและอีกอย่างเทศกาลนี้กำลังจะเริ่มต้นภายในไม่กี่วันข้างหน้าบอกไว้ก่อนนะค่ะว่าคุณจะเห็นประเทศญี่ปุ่นเป็นสีชมพูและความครึกครึ้นสนุกสนานกันทั่วทั้งประเทศเลยที่เดียวนั่นคือ เทศกาลฮานามิหรือเทศกาลดอกซากุระบานสำหรับใครที่ยังไม่รู้จักเดี๋ยวไกด์จังขอเล่าวคร่าวๆก่อนสำหรับเทศกาลนี้นะค่ะ
ฮานามิ เป็นประเพณอันสำคัญของชาวญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อการชื่นชมและสนุกสนานไปกับความงามของ ดอกซากุระที่ผลิบานทั่วเกาะญี่ปุ่นในเวลาเดียวกัน  ซึ่งประเพณีฮานามินี้เกิดขึ้นมานานกว่าพันปี และยังได้รับความนิยมในญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบัน  เทศกาลฮานามิจะถูกจัดขึ้นในทุกฤดูใบไม้ผลิทุกปีซึ่งเราจะได้เห็นดอกซากุระจะบานเพียงหนึ่งหรือสองสัปดาห์เท่านั้น และมักจะบานในเดือนมีนาคมถึงเมษายน ในช่วงนี้ชาวญี่ปุ่นรวมทั้งนักท่องเที่ยวทั่วโลกจะรอดูช่อดอกซากุระจะบานสะพรั่งทั้งต้นอย่างใจจดใจจ่อ  หลังจากที่ดอกช่อแรก บานแล้วไปหนึ่งอาทิตย์และเพียงไม่กี่อาทิตย์ต่อมาที่ดอกบานสะพรั่งเต็มที่แล้ว หลังจากนั้นก็จะร่วงลงมาจากต้นทั้งหมด  นอกจากนี้ยังมีหนึ่งในธรรมเนียมของเทศกาลฮะฃานามิในการชมดอกซากุระคือการฉลองการบานของดอกซากุระนั่นเอง จะมีการสังสรรค์ดื่มกันใต้ต้นซากุระ บรรยากาศจะสนุกสนานเฮฮามากซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นทั่วไปและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมา
การชมดอกซากุระมาสารถชมได้ทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่นค่ะวันนี้ไกด์จังจะมาแนะนำสถานที่ยอดนิยมและเดินทางสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเราๆนะค่ะ


ซากุระในสวนอุเอโนะ
ที่นี่เป็นสวนสาธารณะใหญ่มีต้นซากุระกว่า 1500 ต้น เดินทางสะดวกสบายเพราติดกับ เมโทร สถานีอุเอโนะ



สวนอิโนะกะชิระ
เป็นสวนที่อยู่ทางตะวันตกของโตเกียวสวนแห่งนี้จะฉลองครบ 100 ปี อีก 2 ปี ข้างหน้าเพราะเปิดใช้บริการเมื่อปี ค.ศ. 1918 สวนแห่งนี้ห่างจาก เมโทร สถานี คิชิโจจิ (Kichijoji) แค่ 100 กว่าเมตรเอง




วนอุทยานแห่งชาติชินจุกุ
ที่นี่อาจจะเป็นแลนด์มาร์คที่ดีที่ดีทุดสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราเพราะเป็นย่านช้อปปิ้งดังชินจูกุซึ่งสวนแห่งนี้ติดกับรถไฟฟ้า เมโทรเหมือนกับสวนที่อุเอโนะเลยค่ะ

เปลียนมากดูจังหวัดอื่นดีกว่า



สวนโอะกิะซากิ
สำหรับเกียวโตแล้วที่คือสวนชมซากุระที่สวยที่สุดในเกียวโต แม้นว่าเมืองเกียวโตจะมีแหล่งชมซากุนะมากมายก็ตามแต่ที่นี่คือเพชรน้ำเอกของเกียวโตก็ว่าได้ นอกจากท่านจะเดินชมสวนแบบชิวๆแล้ว ท่านยังสามารถนั่งเรือชมซากุระในสวนสองข้างทางได้อย่างจุใจอีก




ปราสาทนาโกย่า
หลายท่านคงเคยไปหรือเคยได้ยินปราสาทนาโกย่าแล้วแต่ขอบอกไว้ก่อนนะค่ะว่า ปราสาทนาโกย่าสวยมากในเทศกาลซากุระบานและที่ปราสาทนาโกย่าจะจัดงานจนหมดเทศกลามีของกินเกอนเยอะแยะมากมาย





ปราสาทโอซาก้า
ปราสาทโอซาก้าหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอกนิยมของคนไทย หากท่านได้มีโอกาสแชะภาะคู่กับปราสาทอีกครั้งพร้องกับดอกซากุระบอกได้เลยค่ะว่าคุณจะประทับใจไม่รู้ลืมเพราะในช่วงฮานามิทั่วทัั้งปราสาทจะกลายเป็นสีชมพูหมดเลยเพราะที่นี่มีต้นซากุระเกือบ 2,000 ต้น นอกจากนนี้ที่โอซาก้าก็มีการงานเทศกาลเหมือนกันมีร้านค้าและร้านขายอาหารของดีโอซาก้ามาให้เราช้อปและชิมเหมือนกับที่นาโกย่าค่ะ

หากใครยังไม่มีแพลนและอยากหนีร้องเมืองไทยหรือเที่ยวสงกรานต์ต่างประเทศไกด์จังแนะนำที่นี่เลยนะค่ะรับร้องเลยค่ะว่าคุณจะไม่ผิดหวังค่ะ











วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559

ร้อนนี้ฮาวาย (Aloha Hawaii)



สวัสดีค่ะทุกท่าน ตอนนี้ประเทศไทยเข้าสู่หน้าฤดูร้อนอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งอุณหภูมิหน้าร้อนปีนี้สูงปรี๊ดมากกว่าปีก่อนๆหลายๆปีเลยทีเดียว ซึ่งทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งว่าเดือนหน้าเดือนเมษาอุณหภูมิจะพุ่งสูงว่า 44 องศาเซลเซียสเลยที่เดียวเนื่องจากปีนี้โลกได้หมุนจุดตั้งฉากกับดวงอาทิตย์จึงทำให้ร้อนขึ้นเนื่องจากได้รับแสงแดดโดยตรงซึ่งประเทศที่เจอแจ็คพอตใหญ่ปีนี้คือประเทศไทยบ้านเรานั่นเองค่ะ แต่ยังไงก็อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะและระวังโรคภัยที่จะมาพร้อมกับหน้าร้อนด้วย ได้แก่ อาหารเป็นพิษ อุจจาระร่วง อหิวาตโรค และโรคลมแดด เป็นต้นหรือหากใครมีเวลาลางานเยอะๆหรือว่ามีวันหยุดพอสมควร วันนี้ไกด์จังขอแนะนำไปเที่ยวเมืองที่อากาศดีๆหน่อยในเดือน เมษา เช่น ญี่ปุ่นจะตรงกับเทศกาลฮานามิหรือเทศกาลซากุระบานที่จัดกันเป็นหลายสัปดาห์ (เดี๋ยวโพสต์หน้าพรุ่งนี้ไกด์จังจะเขียนแนะนำเกี่ยวกับเทศกาลฮานามินะค่ะ) หรืออีกที่ที่วันนี้ไกด์จังจะขอนำเสนอฮาวายสำหรับที่หลบร้อนจากเมืองไทยปีนี้ หลายๆคนคงจะเคยได้ยินฮาวายมาบ้างบางคนก็อยากไปเที่ยวแต่ไม่รู้จะเดินทางยังไงไปที่ไหนบ้าง วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเกาะนี้ดีกว่าค่ะ

ฮาวายเป็นหนึ่งในรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นรัฐอันดับที่ 50 หรือรัฐสุดท้ายของอเมริกาค่ะมีเมืองใหญ่ประจำรัฐคือเมืองฮอนโนลูลู ประชาชนส่วนเป็นชาวฮาวายเอี้ยน (Hawaiian) และชาวอเมริกาและชาวเอเชียอย่างละครึ่งส่วนใหญ่สื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษตามแบบอเมริกันแต่ก็จะมีอีกภาษาคือภาษาฮาวายเฮี้ยนซึ่งมีคำที่เราคุ้นๆได้ยินกันเช่นคำว่า อโลฮา (Aloha) ที่แปลว่า สวัสดีรัฐฮาวายประกอบไปด้วย 8 เกาะด้วยกัน ประกอบไปด้วย เกาะโออาฮู เกาะฮาวายอิ เกาะคาวายอิ เกาะเมาอิ เกาะลานาอิ เกาะนิอิฮาว เกาะคาโฮโอลาเว เกาะโมโลกาอิ การเที่ยวในฮาวายนี้จะใช้เวลาแค่ 4-5 วันสำหรับไกด์จังแล้วคิดว่ายังไม่คุ้มเท่าไหร่ อย่างต่ำก็สัปดาห์หนึ่งนะค่ะจะได้คุ้มเพราะฮาวายไม่ได้มีดีแค่ทะเลเท่านั้นเพราะที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากมายไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง



หาดไวกิกิ (Waikiki Beach) 
ชายหาดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของฮาวายเลยก็ว่าได้อยู่ใกล้กับ Honolulu Downtown






พระราชวังอิโอลานี (Lolani Palace
พระราชวังแห่งเดียวในสหรัฐอเมริกาเป็นพระราชวังในช่วงของฮาวายยังปกครองด้วยระบบกษัตริย์ของสองผู้ปกครองคือ พระราชา Kalakaua และพระราชินี Liliuokalani แห่งฮาวาย ก่อนที่จะถูกล้มล้างอำนาจในปี 1893 ต่อมาอาคารหลังนี้ได้ถูกใช้เป็นศูนย์กลางบริหารของรัฐบาลของสาธารณรัฐฮาวาย จนกระทั่งปี 1969 อาคารหลังนี้ได้รับการบูรณะอีกครั้งและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แก่นักท่องเที่ยวให้เข้าชมในปี 1978






อนุสรณสถานเรือ ยู.เอส.เอส. อริโซน่า หรือ เพิร์ลฮาร์เบอร์ (Pearl Harbour)
นี่คือหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่สำคัญของชาวอเมริกันที่ต้องจดจำ ความเจ็บปวดเสี้ยวหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กองทัพทหารอเมริกันได้โดนลอบโจมตีจากกองกำลังทางอากาศติดอาวุธจากญี่ปุ่นทำให้ทหารหลายพันนายต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ด้านในจะจัดแสดงเรื่องที่เรือที่อับปางจากการโจมตีดังภาพที่ไกด์จังโชว์นะค่ะ 







Diamond Head Creater
หนึ่งในภูเขาไฟที่เป็นรูปกรวยและเราสามารถขึ้นไปชมวิวของเกาะได้ 360 องศาบนปล่องภูเขาไฟ ซึ่งเคยมีหลักฐานพบว่าที่แห่งนี้เคยเป็นที่บูชายัญมาก่อน สำหรับใครที่ชื่นชอบการปีนเขาที่แห่งนี้คงตอบโจยท์คุณได้อย่างแน่นอนค่ะ




Haleakala national park
อุทยาทแห่งชาติฮาเลอาคาลา อุทยานแห่งชาตินี้มีปากปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกนอกจากนี้ยังมีทะเลสาบ ป่าพรรณนานา เหมาะสำหรับผจญภัยเป็นอย่างมาก ภูเขาไฟที่นี่ยังครุกกรุ่นอยู่นะค่ะระเบิดครั้งล่าสุดเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ปี 1970 ที่แห่งนี้ยังได้รับการขนานนามว่า House of the sun หรือบ้านแห่งพระอาทิตย์เพราะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยที่สุดในฮาวายหากใครเบื่อทะเลก็เปลี่ยนบรรยากาศมาเดินดูภูเขาไฟก็ได้นะค่ะ





The Bishop Museum


เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวม วัถตุ และศิลปวัฒนธรรมของชาวฮาวายไว้โชว์ที่นี่




อe Preserve
อ่าวนี้สำหรับคนที่อยากดำน้ำดูปะการังในระดับตื้นๆ อ่าวนี้เหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก
ฮาวายไม่ได้มีดีแค่ทะเลนะค่ะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย หลากหลายสไตล์รับรองได้เลยค่ะว่าเที่ยวทริปนี้มีแต่คุ้มกับคุ้ม อีกอย่างคุณไม่มีรูปสวยๆอัพลงไอจีในเพื่อนๆอิจฉาไปได้อีค่ะ


วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559

Key West Florida ไข่มุกแห่งอเมริกาตอนใต้


หลายๆคนเคยไปอเมริการมาแล้วหลายครั้ง ถ้าให้นึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศนี้ สำหรับคนไทยแล้วเราก็จะนึกถึง นิวยอร์ก ลอสแอลเจลิส ซานฟรานฯ ชิคาโก้ บอสตัน เท็กซัส ฟลอริด้า นี่คือเมืองหลักๆที่คนไทยนิยมไปและอยู่อาศัยกันแต่วันนี้ไกด์จะพามาฟลอริด้าแต่ไม่ได้มารีวิวไมอามี่นะค่ะแต่วันนี้จะพามาอีกสถานที่หนึ่งที่คนไทยน้อยคนจะรู้จัก ที่อยูติดกับทะเลแคริบเบียนอยู่ทางใต้สุดของรัฐฟลอริด้านั่นคือ Key West




Key west อยู่ทางตอนใต้ของฟลอริด้าและเป็นส่วนปลายสุดของ Florida Key และยังเป็นเมืองที่อยู่ใต้สุดของเขตต่อเนื่องของอเมริกาและยังเป็นปลายทางหลวงหมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย นอกจากนี้ชาวอเมริกันยังได้ขนานนามดินแดนแห่งนี้ว่า ดินแดนสำหรับดูพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด แหมะ พูดมาซะขนาดนี้แล้วเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าเมื่องที่เป็นเกาะเป็นแหลมยื่นออกไปขนาดนี้ว่าจะสวยขนาดไหน แนะนำอีกอย่างนะค่ะสำหรับการเดินทางหากใครที่ขับรถเป็นแนะนำเช่ารถขับดีกว่าซึ่งจากไมอามี่ไปถึง Key west แค่ สามชั่วโมงเอกนอกจากนี้เรายังสามารถจอดรถแวะพักและจุดท่องท่องเที่ยวในแต่ละเกาะได้


                                        ขับรถไปชิวไปกับถนนที่ถือว่าสวยอับดับหนึ่ง


 ทะเลที่ Key West เป็นทะเลที่หนึ่งที่สวยไม่แพ้ฮาวายเลยก็ได้แถมยังได้บรรยากาศแบบลาตินด้วยจุดที่มีป้ายบอกระยะทาง หรือ หลักกิโลไม้ ถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำทะเลกัน รวมทั้งกิจกรรมทางน้ำต่างๆ


Southernmost Point นี่คือจุดที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน Key West ต้องมาถ่ายถ้าไม่มาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึง Key West ทุ่นนี้เป็นจุดที่แสดงว่า อีก 90 ไมล์ข้างหน้านี้คือประเทศคิวบา


นี่คือ Dry Tortugas National Park เกาะแห่งนี้ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ.1513 และอยู่ห่างจาก Key West 70 ไมล์ ซึ่งที่นี่มีป้อมปราการที่ชื่อว่า Fort Jefferson ใช้เวลาในการสร้างประมาณ 30 ปี แต่ก็สร้างไม่เสร็จถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ.1846 เนื่องจากได้มีอาวุธที่ทันสมัยมากกว่าปืนใหญ่และก็ไม่ได้ใช้เป็นป้อมในสุดก็กลายเป็น National Monument

 อีกมุมหนึ่งของ Fort Jefferson บนเกาะ  Dry Tortugas National Park สำหรับใครที่เป็นขาเที่ยวทะเลควรไม่พลาด

นอกจากนี้ Key West ยังมีเที่ยวเที่ยวอีกมากมาย ทั้ง Key West Down Town หาของกินอร่อยๆ หาซื้อของที่ระลึกและของฝากสวยๆ เก๋ๆที่มีให้เลือกมากมายไปฝากครอบครัวและเพื่อนๆ หากใครสนใจทริปพิเศษนี้ลองชวนเพื่อนหรือคนที่รู้ใจของคุณไปซักครั้งนะค่ะ รับรองจะไม่ผิดหวังค่ะ

วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

ตามรอยสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ Harry Potter ป่าดีน (Forest of Dean)


สวัสดีวันจันทร์ที่ 29 กุมภาฯ นะค่ะนานๆที 4 ปีครั้งจะมีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ใครเกิดวันนี้ไกด์ของ Happy Birthday ทุกท่านนะค่ะ เอาละค่ะวันนี้ไกด์ขอนำเสนอการท่องเที่ยวที่แปลกหน่อย เอ๊ะ อาจจะไม่แปลกก็ได้ในปัจจุบัน ในปัจจุบันเกิดสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่จากการเป็น Location ในการถ่ายทำละครและภาพยนต์ วันนี้ขอนำเสนอสถานที่หนึ่งจากภาพยนต์แฮรี่ พอตเตอร์ ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้ก็มี Location ถ่ายหลายที่แต่วันนี้ของนำเสนอหนึ่งที่เป็นป่าเก่าแก่ของอังกฤษนั่นคือ ป่าดีน (Forest of Dean)


ป่าดีนหรือป่าโบราณแห่งสหราชอาณาจักร(Forest of Dean) สมัยก่อนที่แห่งนี้เคยเป็นป่าสำหรับการล่าสัตว์ของราชวงศ์อังกฤษหลายสมัยและในปัจจุบันทางการอังกฤษได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นที่ตั้งแคมป์พักผ่อนของชาวอังกฤษและนักท่องเที่ยทั่วโลก (ลักษณะคล้ายๆเขาใหญ่บ้านเรา) ซึ่งท่านสามารถเข้ามาชื่นชมความงดงามของป่าแห่งนี้ได้ง่ายทั้งการเดินเท้าหรือปั่นจักรยาน หากใครเป็นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติป่าโบราณสไตล์อังกฤษแห่งนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน


อย่างที่เล่าไว้ตอนต้นป่าแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ระดับแนวหน้าของโลก อย่างเช่น แฮรี่ พอตเตอร์และเครื่องรางยมทูต ภาค 7 เป็นฉากที่ แฮรี่และเพื่อนอีกสองคน เฮอร์ไมโอนี่ และ รอน วิสลี่ย์หนีการตามล่าพวกนักต้อนและโวเดอร์มอลต์และเป็นที่หลบซ่อนฮอร์ครักซ์ (คล้ายๆที่ซ่อนหัวใจ)และหาทางทำลายมัน 

นอนจากนี้ยังไม่ภาพยนต์อีกหลายเรื่องที่ถ่ายทำที่นี่รวมถึงรายการของ BBC ของอังกฤษที่มาถ่ายทำเป็นประจำ
หากใครนึกไม่ออกว่าฉากไหนของแฮรี่ พอตเตอร์ที่ถ่ายทำที่ป่าดีวันนี้เรามีมาให้ชมกันค่ะ



                                     ภาพนี้น่าจะคุ้นๆกันแฮรี่ น่าจะนั่งอยู่ริมตลิ่งฝั่งโน้น



                                      
นางเอกคนเก่งของเราเฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์



                                            ฉากหนีนักต้อน ไกด์ชอบฉากนี้มาก



ไกด์ชอบป่านี้อย่าหนึ่งเวลาหน้าหิมะป่าจะสวยเหมือนสวรรค์เลย 



ฉากนี้เป็ฉากที่กวางผู้พิทักษ์นำไปพบกับดาบกริฟฟิลดอร์ที่บึงด้านหน้า


หากใครได้มีโอากาสไปอังกฤษฝากสถานที่ท่องเที่ยวนี้ด้วยนะค่ะ ไม่ไกลจากฺบริสโทรและเวลตส์เท่าไหร่

วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เยือนถิ่นโปงลาง กาฬสินธุ์ วัดพุทธนิมิตร(วัดภูค่าว)

           วันนี้ไกด์จะพาท่านมารู้จัดอีกกับจังหวัดเล็กๆในภาคอีสานแต่เต็มไปด้ยแหล่งอารยธรรมเก่าๆแก่มากมาย นั่นก็คือ จังหวัดกาฬสินธุ์ วันนี้จะพามารู้จักกับวัดแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญกับชาวเมืองน้ำดำ หากคุณมาเยี่ยมเพื่อนหรือญาติที่จังหวัดกาฬสินธุ์เชื่อว่าหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เค้าจะพาคุณไปคือ วัดภูค่าวนี่เอง

          วัดพุทธนิมิตร หรือ วัดภูค่าว ตั้งอยู่ตำบลนาสีนวล อำเภอสหัสขันธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 75 ไร่ มีโบสถ์ไม้ที่สวยงาม จุดเด่นของวัดนี้คือพระพุทธไสยาสน์ตะแคงซ้าย ซึ่งตามประวัติเล่ามาว่า พระโมคัลลานะพระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าได้สร้างขึ้นเมื่อ 2,000 ปีมาแล้ว ซึ่งตามตำนานอีกทางหนึ่งได้กล่าวว่าประกอบกันไว้ว่าประมาณ พ.ศ.8 พระเจ้าศรีโคตรบูรณ์ เป็นกษัตริย์จากเมืองขอม ได้สร้างธาตุพนมสำเร็จ จึ่งไปบอกบุญแก่ชาวขอมขอเชิญมาร่วมฉลองงานพิธีสมโภชครั้งนี้ ฝ่ายทางขอมต่ำเมื่อได้ยินข่าวแจ้งบอกบุญ ได้รวบรวมทรัพย์สินเงินทองไปร่วมงานบุญครั้งนี้ โดยมีนายสา เป็นหัวหน้าดำเนินงานและนำคณะเดินทางมายังธาตุพนม ในระหว่างที่เดินทาธาตุพนมถึงจุดบ่อคำม่วง ได้ทราบข่าวชาวบ้านระแวกนั้นว่าได้มีงานสมโภชธาตุพนมได้เสร็จสิ้นแล้วจากนั้นนายสาและคณะชาวขอมต่ำเลยได้ปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรกับทรัพย์สินที่เอามาด้วยจำนวนมาก จึงได้ข้อตกลงว่าในเอาทรัพท์สินทั้งหมดมาฝั่งไว้ที่ภูค่าวและสลักรูปพระโมคคัลลานะไว้ที่ถ้ำแห่งนี้และได้ทิ้งปริศนาไว้ว่า "พระหลงหมู่อยู่ภูถ้ำบก แสงตาตกมีเงินเป็นแสน ไผหาได้กินทานหาแน่ เหลือจากนั้นกินเลี้ยงบ่อหลอ"

หลังจากที่เรารู้จักประวัติของวัดภูค่าวแล้วหากใครที่ยังไม่เคยเดินทางมาวัดนี้ลองดูรีวิวนี้ดูนะค่ะว่าวัดนี้น่ามาเที่ยวขนาดไหน



 นี่คือพระพุทธรูปหน้าวัดหากเราขับรถมาจอดตรงโซนหน้าวัดจะเป็นศาลานี้เป็นอันดับแรก (ข้างๆศาลาจะมีนกยูงที่ทางวัดเลี้ยงไว้หลายร้อยตัว มีแต่ตัวสวยๆกำลังจะถ่ายมันรำแพนหางไล่ ไว้คราวละกันะค่ะ)



นี่เป็นบรรยากาศภายในวัด เวลาจะไปโบถส์ ไปศาลา หรือ เจดีย์ เส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ แลดูเป็นธรรมชาติ ด้วยเหตุที่ทางวัดเลี้ยงนกยูงไว้เยอะและติดกับเขาจึงทำให้วัดนี้มีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอประมาณ




ก่อนจะเดินไปสักการะพระพุทธไสยาสน์ แวะพักโบสถ์ที่ประดับไปด้วยพระ เหรียญพระ ทั้งสมัยเก่าและใหม่ รวมทั้งพระที่มีอายุเป็นร้อยๆกว่าปี รวมถึงพระอวโลกิเตศวรแบบศิลปกรรมแบบขอม ให้ดูเป็นเกือบหมื่นรูป


ออกมาจากโบถส์ที่ประกอบไปด้วยพระเราเดินลงบันไดลงมาหน้าผา เราจะเห็น พระพุทธไสยาสน์ประดับบนหน้าผาที่มีอายุราวๆ 2,000 กว่าปี โดยจัดสร้างขึ้นโดยพระโมคัลลานะในตามตำนานที่กล่าวไว้


หลักจากได้สักการพุทธไสยาสน์เรียบร้อยเราเดินมาไว้พระที่โบสถ์ไม้ซึ่งไม่ทั้งหมดเอามาจากใต้เขื่อนลำปาวที่อยู่ใกล้ๆกัน




ภายในโบสถ์ได้ประดิษฐานพระพุทธรูปที่เหลืองอร่ามอยู่ ผนังโบถส์มีการแกะสลักไม้เป็นพุทธประวัติอย่างสวยงาม (ในโบถส์เย็นมากและร่มรื่ม)





นี่คือเจดีย์องค์ใหม่ที่สร้างเสร็จเมื่อไม่กี่ปี ดูไกลๆเหมือนจะไม่สูงเท่าไหร่แต่พอดูใกล้สวยมากๆ องค์เจดีย์ สูง ใหญ่ มาก





ทางเข้าองค์เจดีย์ดูคล้ายเขาพนมรุ้งมากเมื่อเห็น อนันตนาคราช 





บรรยากาศรอบเจดีย์ดูเป็นศิลปกรรมแบบขอมมาก ดูสวยไปอีกแบบ






เมื่อเข้ามาในโบสถ์จะเห็นพระพุทธรูปรวบรวมศิลปกรรมแบบต่างๆ ข้างในรู้สึกจะทำด้วยหินอ่อน


ทั้งหมดนี้คือวัดภูค่าวหากใครสนใจก็สามารถแวะมาได้นะค่ะ ทั้งนี้จังหวัดกาฬสินธุ์มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยพมากมายรับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง ครั้งหน้าไกด์จะพาไปไหนอย่าติดตามกันนะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ