สวัสดีทุกท่านค่ะ วันนี้อากาศดีเลยที่เดียว (แทบไม่อยากลุกจากที่นอน) เอาละเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ จากโพสต์ก่อนหน้านี้ที่ได์ได้โพตส์เกี่ยวกับ สถานที่ท่องเที่ยวฤดูใบไม้ในญี่ปุ่น แต่มีอีกเมืองหนึ่งที่ไกด์เคยไปแต่ไม่ได้รีวิวให้ดู คือ นารานั่นเอง หลายๆท่านอาจจะคุ้นหูคุ้นชื่อเมืองนี้บ้าง เพราะนาราอยู่ใกล้กับโอาก้านั่งเองค่ะ ปกติถ้าเราไปกับกรุ๊ปทัวร์ที่เป็นทัวร์โอซาก้าส่วนมากก็จะมีเมืองนาราในโปรแกรมทัวร์นั้นๆ ด้วยจ้า เอาละขอแนะนำเมืองนาราให้รู้จักคราวๆก่อนะค่ะ นาราเป็นเมืองที่บนเกาะฮอนชูห่างจากจังหวัดโอซาก้าโดยประมาณ 50 กิโลเมตร เดิมนาราเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นมาก่อนในยุคนะระ (ค.ศ. 710 - ค.ศ. 795) ซึ่งในยุคนี้มีความเจริญรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมากโดยจะเห็นได้จากมีวัดจำนวนมากทั้งวัดเล็กและวัดใหญ่ รวมถึงโบราณสถานจากยุคนะระปรากฏทั่วเมืองนารา ซึ่งทำให้ตอนนี้ยูเนสโกได้จดทะเบียนให้เมืองนาราเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้ว แค่ได้ยินประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของเมืองเล็กๆแห่งนี้ มีดูกันค่ะว่ามีที่ไหนกันบ้างวันนี้ของหยิบยกสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกนะค่ะ
สวนกวางนารา
เป็นสวนสาธารณะที่มีกวางจำนวนมาก ประมาณ 1,200 ตัวในพื้นที่นี้โดยกวางจะถูกปล่อยอย่างอิสระซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนำอาหารมาให้กวางได้หรือสามารถซื้อได้ที่ร้านค้าในสวนฯค่ะ กวางที่อยู่บริเณจะมีลักษณะเชื่อง น่ารักต่อนักท่องเที่ยว กวางถือเป็นสัตว์ที่คู่บ้านคู่เมืองของเมืองนารามานานเพราะกวางถือว่าเป็นสัตว์สวรรค์ซึ่งมีตำนานอยู่ว่า เทพเจ้าทาเคมิคาซูชิ (Takemikazuchi) กับกวางขาวและช่วยปกป้องเมืองนาราจากสิ่งที่ไม่ดีต่างๆซึ่งทำให้กวางเป็นสัตว์สำคัญของเมืองนารา สวนกวางตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของพระราชวังเก่าและยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆแห่งที่อยู่ใกล้สนกวางนี้ เช่น วัดโทไดจิ (Todaiji) ศาลเจ้าคาสุกะ (Kasuga Taisha) โคฟุคุจิ (Kofukuji) และพิพิธภัณฑ์แห่งชาตินารา (Nara National Museum) ซึ่งหากท่านจะเที่ยวนาราโดยมีจุดเริ่มต้นที่สวนกวาง ท่านก็สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่กล่ามาข้างต้นได้อย่างสบายเลยค่ะโดยไม่ต้องกังลถึงแม้ทริปนี้จะเดินทางมาคนเดียก็ตาม
วัดโทไดจิ (Todaiji)
วัดโทไดจิ หรือ วัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 752 วัดนี้มีความสำคัญอย่างมากกับประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น อาคารหลักในวัดถือเป็นอาคารไม้ที่ใหญที่สุดในโลก ซึ่งภายในประดิษฐานของหลวงพ่อ หรือที่เรียกกันว่า ไดบุตสึเดน ซึ่งเป็นพระประธานที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งด้านหน้าของวัดก็มีฝูงกวางอยู่จำนวนไม่น้อยเหมือนกัน สามารถซื้อขนมเซนเบ้ SENBEI เพื่อป้อนน้องกวางได้นะค่ะ ห่อละ 100-150 เยน
ศาลเจ้าคาสุกะ (Kasuga Taisha)
ศาลคาสุเกะเป็นศาลเจ้าที่มีมานาน ตั้งแต่คริตส์ศตวรรษที่ 7 ในยุคที่นารายังเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับแด่เทพเจ้าผู้ปกป้องเมืองนาราสมัยนั้น และยังเป็นศาลเจ้าประจำตระกูล ฟูจิวาระ อีกด้วย ซึ่งที่เป็นจุดขายของวัดนี้คือตะเกียงนับพับดวงที่รายล้อมรอบศาลเจ้าเป็นอีกมุมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน และหากอยากเป็นความสวยงามของไฟตะเกียงนับพันดวงและความอลังการมากวว่านี้ต้องมาในช่วงของเทศกาลตะเกียงประมาณเดือนกุมภาพันธ์และเดือนสิงหาคมของทุกปีค่ะ หากใครสนใจสามารถเช็ครายละเอียดของงานได้ที่ เว็บไซต์การท่องเที่ยวของญี่ปุ่นได้
โคฟุคุจิ (Kofukuji)
เคยเป็นวัดของครอบครัวฟูจิวาระ ตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในช่วงยุุคนะระและเฮอัน ถูกสร้างขึ้นประมาณค.ศ.ปี 710 ในช่วงเดียวกับที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น เมื่อก่อนในสมัยนั้นเคยมีอาคารมากกว่า 140 กว่าอาคารภายในวัด แต่ปัจจุบันนี้เหลืออยู่เพียงไม่กี่อาคาร ซึ่งมีอาคารหลัก 2 อาคาร เจดีย์ห้าชั้นและเจดีย์สามชั้น สำหรับเจดีย์ 5 ชั้นนั้นสูงเป็นอันดับสองของเจดีย์ในญี่ปุ่น
วัดโทฟูกุจิ (Tofukuji Temple)
สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1236 โดยตระกูลฟูจิวาระ เป็นวัดเซ็นขนาดใหญ่ชื่อของวัดมีความสัมพันธ์กับวัด 2 แห่งในนาราคือวัดไทโดจิและวัดโคฟุกุจิ วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงในการชมใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นช่วงนี้นี่เองถ้าคุณไปตอนนี้จะเห็นนักท่องเที่ยวคึกคักตลอด ในฤดูใบไม้ร่วงผู้คนทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยี่ยมเยือนวัดแห่งนี้เพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีจุดที่นิยมที่สุดคือสะพานซุเทนเคียว ซึ่งใบเมเปิ้ลจะปกคลุมสะพานยาวถึง 100 กว่าเมตร ถือเป็นจุดถ่ายภาพที่เริ่ดที่สุดในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ส่วนในบริเวณวัดสามารถเข้าชมได้ฟรีรวมถึงอาคารที่ใหญ่ที่สุดด้วย นอกจากนี้ยังมีประตูซานม่อนสร้างเป็นแบบเซ็นโบราณด้านหลังประตูคือห้องโถงหลักฮอนโดที่ได้มีการบูรณะเมื่อ ค.ศ. 1934 รอบๆบริเวณนั้นมีอาคารต่างๆของวัดในช่วงต้นสมัยมูโรมาชิและสถาปัตยกรรมแบบเซ็น เช่น ห้องสวดมนต์ หอระฆัง ห้องอาบน้ำและห้องน้ำ เป็นต้น
วัดซิกิซัง โซโกะชงชิจิ (Shigisan Chogosonshi-Ji Temple)
วัดแห่งนี้อยู่ห่างจาก สวนนารากับวัดที่ได้กล่าวมานะค่ะ เพราะตั้งอยู่บนเขาชิงิ เมืองอิคุมะ สร้างขึ้นเมื่อ ศ.ค. 700 ในสมัยนารายังเป็นเมืองหลวงเหมือนกันและมีความรุ่งเรื่องทางพระพุทธศาสนาเหมือนกัน สร้างโดยเจ้าชายโอโตกุ พระราชโอรสสมเด็จจักรพรรดิ์โยเม มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อสมัยนั้นเกิดสงครามกันบ่อยก่อนออกรบองค์จักรพรรดิ์ได้ขอพรกับพระเจ้ามิชามอน ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความโชคดีและชัยชนะ ว่ากันว่าเทพเจ้ามิชามอนได้ปรากฏตัวในวันเสือเดือนเสือและปีเสือในคราวเดียวกันเพื่อประทานพรแก่นักรบ ซึ่งต่อมาภายหลังได้รับชัยชนะจากสงครามทำให้เจ้าชายโอโตกุได้สร้างวัดนี้ขึ้นมาเพื่อถวายแด่เทพเจ้ามิชามอนและหากใครที่ต้องการขอพรให้ประสบผลสำเร็จทางด้านการเงินแนะนำมาที่นี่เลยนะค่ะ
ทั้งหมดนี้หากใครไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ นาราจะไม่ทำให้คุณผิดหวัดแน่นอนค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น